มะม่วงหาว มะนาวโห่ แยมสมุนไพร ผลงาน วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการวังไกลกังวล

“มะม่วงหาว มะนาวโห่” เป็นสมุนไพรแต่โบราณกาล แม้แต่ผู้ประพันธ์วรรณคดีไทยหลายเรื่อง เคยหยิบเอา ต้น “มะม่วงหาว มะนาวโห่” เข้าไปมีส่วนร่วมในเนื้อหาของวรรณคดี เช่นนางสิบสอง รามเกียรติ์ และสังข์ทอง จึงทำให้รู้ว่า ผลไม้สมุนไพรต้นนี้น่าจะคุณประโยชน์อย่างมหาศาลแน่นอน
บางพื้นที่ เรียก “มะม่วงหาว มะนาวโห่”ว่า หนามแดง ส่วนภาคเหนือ เรียกว่า หนามขี้แฮด ภาคกลาง เรียก มะนาวไม่รู้โห่ ภาคใต้เรียก เรียกว่า มะนาวโห่ จะเรียกกันอย่างไรก็แล้วแต่ ก็ถือผลไม้เดียวกัน
เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ ลำต้นและกิ่งมีหนามแหลมยาวประมาณ 2 นิ้ว ผลมีลักษณะกลมหรือรีเกือบกลม ผิวเรียบเป็นมัน ผลอ่อนสีขาว แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีชมพูและแดงเข้มเมื่อผลแก่จัด กระทั่งสุกจึงกลายเป็นสีดำ เจริญเติบโตได้ดีบริเวณป่าทั่วไป และในปัจจุบันเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นเนื่องจาก ทางวิชาการระบุว่า มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถต้านอาการหวัดได้ดี วงการแพทย์นำไปใช้รักษาโรคควบคู่กับยาแผนปัจจุบัน แต่ก็ยังอยู่ในวงจำกัด ยังไม่ได้ผลิตกันถึงขั้นอุตสาหกรรม เพียงแต่ใช้กันในชุมชน และในครัวเรือนเท่านั้น
ดังนั้นทางวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการวังไกลกังวล บ้านหนองจันทร์ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมีคุณพิฆเนศ ธนไพศาลโชค คุณนูฟา หะยีแยนา คุณโศรยา เอี้ยงสมบูรณ์ และคุณบัณฑิตา เกษตรเจริญ นักเรียนชั้นระดับ ปวช.ปี 2 จึงได้ทำโครงงานวิจัย แยมลูกหนามแดง ขึ้นโดยมีอาจารย์ นาฏยา ขำคง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
ที่มาของแยมลูกหนามแดง
อาจารย์นาฏยา เล่าที่มาที่ไปของแยมลูกหนามแดงว่า ได้ออกหน่วยไปในชุมชน บ้านหนองจันทร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิทยาลัย เป็นการพบปะชุมชนอยู่สม่ำเสมอ เมื่อไปกันบ่อยชาวบ้านบางท่าน ถามว่า ผลหนามแดง หรือมะม่วงหาว มะนาวโห่ จะเอาไปใช้อะไรได้บ้าง ที่มันมากกว่าการไปเด็ดผลสุกมากิน หรือบางคนก็เด็ดผลที่ยังห่ามๆ เป็นสีชมพู มาจิ้มพริกับเกลือ
“จึงกลับมาคิดว่าน่าจะเอาทำแยม เมื่อศึกษาไปเรื่อยๆทราบว่าสถานศึกษาบางแห่งทำเป็นน้ำหนามแดง ดังนั้นก็ต้องทำแยมได้”
ทดลอง 3 สูตร
เมื่อทดลองทำครั้งแรก แบ่งเป็น 3 สูตร คือ ใช้ผลสีขาว สีชมพูและผลมีม่วงแดง ทั้งนี้เนื่องจากผลสุกหรือผลดิบ จะมีผลต่อรสชาติของแยม เนื่องจากผลดิบจะมีรสชาติที่เปรี้ยว แต่เมื่อสุกจนเป็นแดงจัดแล้ว จะหวานอร่อยมาก เมื่อนำไปให้กลุ่มผู้ทดลอง ซึ่งมีทั้งอาจารย์ นักเรียน เจ้าหน้าที่ ปรากฏว่าแยมลูกหนาวแดง สูตรผลสีชมพู ได้รับการยอมรับมากที่สุด
ส่วนผสม
1.เนื้อหนามแดง (สีชมพู)บดละเอียด 400 กรัม
2.น้ำหนามแดง 200 กรัม
3.น้ำตาลทราย 700 กรัม
4.ผงเพคติน 1 ช้อนโต๊ะ
5.เกลือ ครึ่งช้อนชา
วิธีทำ
1.น้ำเนื้อและน้ำหนามแดงใส่กระทะทองเหลืองตั้งไฟ
2.แบ่งน้ำตาลทราย 50 กรัมผสมกับผงเพคติน ค่อยๆ โรยลงในหนามแดง คนจนน้ำตาลทรายละลาย
3.เติมน้ำตาลทรายที่เหลือจนหมด คนให้ละลายแล้วกวนต่อไป
4.เติมเกลือลงไป แล้วคนไปเรื่อยๆ จนวัดค่าความหวานได้ 68 บริกซ์ หรือเมื่อยกพายไม้ขึ้นแยมจะค่อยๆ ไหลมา
5.บรรจุลงขวดสะอาดที่ฆ่าเชื้อแล้ว ขณะที่แยมยังร้อนปิดฝาตั้งทิ้งไว้ให้เย็น แยมจะแข็งตัว
สำหรับขวดที่จะบรรจุต้องล้างให้สะอาด แล้วนึ่งฆ่าเชื้อประมาณ 15 นาที ผึ่งให้แห้ง และแยมที่เปิดใช้แล้ว ควรเก็บไว้ในตู้เย็น
สำหรับแยมที่ทำออกมานั้น ยังไม่มีการจำหน่าย เพียงแต่นำร่องออกมาว่า ลูกหนามแดงที่ชาวบ้านปลูกกันในพื้นที่ บ้านหนองจันทร์ ส่วนใหญ่แล้วจะปลูกตามหัวไร่ปลายนา บางก็ปลูกไว้ริมรั้ว ยังไม่มากถึงขั้นเป็นอุตสาหกรรมได้ เพียงแต่นำมาแปรรูปในครัวเรือนได้เป็นตัวเลือกในการรับประทานแยม ทากับขนมปัง ขนมปังกรอบ
“ตอนที่ทำกันนั้นก็ให้ไปเอาจากบ้านนักเรียน แต่ตอนนี้ทราบว่าเริ่มมีการซื้อขายกันแล้วเพราะคนเริ่มรู้ถึงสรรพคุณทางสมุนไพร ว่า ลูกหนามแดง มีประโยชน์ จะจำหน่ายกันอยู่ที่ กิโลกรัมละ 40 บาท ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้ ลูกหนามแดง ที่เคยปล่อยทิ้งไว้ เริ่มมีราคา ชาวบ้านเริ่มมีรายได้มากขึ้น ดีกว่าปล่อยให้ร่วง”
สรรพคุณทางยาสมุนไพร
ผล ฆ่าเชื้อ ขับปัสสาวะ แก้ลักปิดลักเปิด เมล็ด แก้กลากเกลื้อน แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน แก้โรคผิวหนัง แก้ตาปลา บำรุงไขข้อ บำรุงกระดูก บำรุงเส้นเอ็น บำรุงกำลัง บำรุงผิวหนัง ส่วนยาง ทำลายตาปลา กัดทำลายเนื้อที่ด้านเป็นปุ่มโต รักษาหูด รักษาขี้กลาก
สำหรับท่านใดที่มีต้น มะม่วงหาว มะนาวโห่ หรือหนามแดง ที่อยู่ริมรั้ว หรือหาได้ง่าย จะทดลองทำ แยม ไว้รับประทาน ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ สอบถามรายละเอียดได้วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการวังไกลวังวล 62 หมู่ที่ 6 บ้านหนองจันทร์ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 76120
ขอบคุณบทความและรูปภาพจาก ข่าวสด